รวมคำที่สับสนบ่อยในการเขียนนิยาย
นักเขียน ใต้หล้าธารา (TaiLaThara)
มกราคม 28, 2564
ที่ไหน คำใช้ในข้อความคาดคะเนว่าคงจะไม่เป็นเช่นนั้น เช่นนี้ มีความหมายว่า ไฉน, ฉันใด, อย่างไร, เช่น แล้วว่าอนิจจาความรัก พึ่งประจักษ์ดั่งสายน้ำไหล ตั้งแต่จะเชี่ยวเป็นเกลียวไป ที่ไหนเลยจะไหลคืนมา (อิเหนา).
---
---
“กริยา” กับ “กิริยา” ต่างกันอย่างไร
- กริยา คือ คำที่แสดงอาการของนามหรือสรรพนาม
- กิริยา คือ การกระทำ, อาการที่แสดงออกทางกายตามความหมายเรื่องมารยาท
-----
- กริยา คือ คำที่แสดงอาการของนามหรือสรรพนาม
- กิริยา คือ การกระทำ, อาการที่แสดงออกทางกายตามความหมายเรื่องมารยาท
-----
โขก-โขลก
โขก เป็นคำกริยามีหลายความหมาย ใช้เรียกกริยาที่คว่ำหน้าลงแล้วเอาหน้าผากกระแทกพื้น เช่น คนไข้เครียดจัดถึงขั้นเอาศีรษะโขกผนังห้อง. ทหารในละครเกาหลีโขกศีรษะกับพื้นยอมรับความผิด
โขก มีความหมายว่า เคาะลง เขกลง เช่น เขาโขกหมากรุกเสียงดังมาก. คำว่า โขกหมากรุก ยังหมายถึง เล่นหมากรุก เช่น ผู้สูงอายุในหมู่บ้านนั่งโขกหมากรุกกันทุกวัน
โขก ใช้ในความหมายเปรียบเทียบว่า กดขี่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค โดยตั้งราคาขายสูงขึ้นกว่าปกติ เช่น ร้านนี้ขายของโขกราคา
โขกเมื่อใช้รวมกับคำอื่น ๆ เป็น โขกสับ หมายถึงด่าว่าทุบตี เช่น น่าสงสารนางเอื้อยในเรื่องปลาบู่ทอง ที่ถูกแม่เลี้ยงโขกสับทุกวัน
ส่วนคำว่า โขลก เป็นกริยา หมายถึง ตำให้ละเอียด เช่น คุณแม่โขลกน้ำพริกแกงเขียวหวาน. นอกจากนี้ยังหมายถึง ตำให้เหนียว เช่น คุณพ่อโขลกแป้งเพื่อทำขนมจีน
โขลกที่ใช้ซ้ำว่า โขลก ๆ ใช้ขยายอาการไอแบบมีเสมหะ เช่น เขาไอโขลก ๆ มาหลายวันแล้วไม่ยอมไปหาหมอรักษาเสียที
-----
การ หรือ การณ์
*คำว่า การ คือ งาน เรื่อง ธุระ เช่น การค้า การเรียน การทาง
-ส่วนคำว่า การ ที่อยู่ข้างหลัง หมายถึง ผู้ทำ เช่น กรรมการ ตุลาการ หรือ คำเฉพาะอื่น ๆ เช่น กงการ วิชาการ
*คำว่า การณ์ คือ เหตุ เค้า มูล เช่น สังเกตุการณ์ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เหตุการณ์
------
พล่าม
[พฺล่าม] ว. เพ้อเจ้อ, อาการที่พูดมากจนเสียประโยชน์, อาการที่พูดซ้ำ ๆ ซาก ๆ ไม่รู้จักจบจนน่ารำคาญ.
พร่ำ
[พฺรํ่า] ว. รํ่าไป, ซํ้า ๆ ซาก ๆ, บ่อย ๆ, เช่น พร่ำบ่น พร่ำเพ้อรำพัน พร่ำสาธยายมนตร์. //
ลูกคำของ "พร่ำ" คือ พร่ำพลอด พร่ำเพรื่อ พร่ำเพ้อ
-----
เค้น -- บีบเน้นลงไปโดยแรง บีบบังคับหรือฝืนทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
เคล้น -- บีบเน้นไปมา
-----
'ช่าง' กับ 'ชั่ง'
ช่าง ๑
น. ผู้ชำนาญในการฝีมือหรือศิลปกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ช่างตัดเสื้อ ช่างไม้ ช่างทอง.
ลูกคำของ "ช่าง ๑" คือ ช่างฝีมือ ช่างฟิต ช่างเครื่อง ช่างไฟ
ช่าง ๒
ว. มีนิสัยชอบในทางใดทางหนึ่ง เช่น ช่างคิด ช่างพูด ช่างประดิษฐ์, มีลักษณะโน้มไปในทางนั้น ๆ เช่น ช่างโง่จริง ๆ ช่างเก่งจริง ๆ.
ช่าง ๓
ว. ปล่อย, วางธุระ, เช่น ช่างเถิด ช่างมัน.
ลูกคำของ "ช่าง ๓" คือ ช่างปะไร
ชั่ง
(๑) น. มาตราเงินตามวิธีประเพณี ๒๐ ตำลึงหรือ ๘๐ บาท เป็น ๑ ชั่ง
(๒) น. ชื่อมาตราวัดน้ำหนักตามวิธีประเพณีแบบไทย ๒๐ ตำลึง เป็น ๑ ชั่ง หรือมีน้ำหนักเท่ากับ ๑,๒๐๐ กรัม, ถ้าเป็นชั่งจีนมีนํ้าหนักเท่ากับ ๖๐๐ กรัม คือเป็นครึ่งหนึ่งของชั่งไทย.
(๓) ก. กระทำให้รู้นํ้าหนักโดยใช้เครื่องชั่งหรือตราชูเป็นต้น เช่น ชั่งเนื้อหมูให้สักครึ่งกิโลกรัม เมื่อเช้าชั่งน้ำหนัก ลดไป ๒ กิโลกรัม.
ลูกคำของ "ชั่ง" คือ ชั่งหลวง ชั่งใจ
-----
คร่ำ ๑
[คฺรํ่า] ว. เรียกของเหลวในถุงเยื่อหุ้มลูกในมดลูกของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ทำหน้าที่ลดผลการกระทบกระแทก และช่วยหล่อลื่นในตอนคลอดเป็นต้น ว่า นํ้าครํ่า เรียกถุงเยื่อหุ้มที่บรรจุน้ำคร่ำ ว่า ถุงน้ำคร่ำ.
คร่ำ ๒
[คฺรํ่า] ว. เก่ามาก เช่น โบสถ์หลังนี้เก่าคร่ำ.
ลูกคำของ "คร่ำ ๒" คือ คร่ำคร่า คร่ำครึ คร่ำหวอด คร่ำเครอะ
คร่ำ ๓
[คฺรํ่า] (กลอน) ก. ร้องไห้.
ลูกคำของ "คร่ำ ๓" คือ คร่ำครวญ
คร่ำ ๔
[คฺร่ำ] ก. เอาเส้นเงินหรือเส้นทองกดและตอกให้ติดบนผิวเหล็ก ทำเป็นลวดลาย, ถ้าเป็นลวดลายเงิน เรียก คร่ำเงิน, ถ้าเป็นลวดลายทอง เรียก คร่ำทอง.
*คร่ำเคร่ง=หมกมุ่น (ทำงาน) หามรุ่งหามค่ำ
คล่ำ
(๑) [คฺลํ่า] น. หมู่.
(๒) [คฺลํ่า] ว. สับสน, เกลื่อนกล่น, มาก, มักใช้คู่กับคำ คลา เป็น คลาคล่ำ.
-----